5 ประเภท การวิ่งมาราธอน ที่นักวิ่ง (มือใหม่) ต้องรู้! (2567)

การวิ่งมาราธอนที่นักวิ่ง (มือใหม่) ต้องรู้! (2567)

วันนี้ CCTFITNESS จะมาพูดถึง 5 ประเภทการวิ่งมาราธอนที่นักวิ่ง (มือใหม่) ต้องรู้! (2567) สำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่ฝึกวิ่งมาได้สักพัก การวิ่งมาราธอนนั้นเหมือนการพิสูจน์ตัวเอง การเอาชนะใจตัวเอง การวิ่งมาราธอนนั้นมีแต่ตั้งการวิ่งสำหรับมือใหม่ไปจนการวิ่งในระดับมืออาชีพ สำหรับมือใหม่ที่เริ่มวิ่งมาได้สักระยะนึง แล้วเริ่มมองหางานวิ่ง อาจจะเกิดอาการงงๆ ไม่รู้จะลงอันไหนกันดี? วันนี้วิ่งทั่วไทยจะพาเพื่อนๆ นักวิ่งมาทำความรู้จักการวิ่งประเภทต่างๆกัน

สารบัญ show

บทความที่เกี่ยวข้อง : 9 การฝึกวิ่งมาราธอน เตรียมตัวสำหรับการแข่งวิ่งครั้งแรก
บทความที่เกี่ยวข้อง : คาร์ดิโอ คืออะไร มีอะไรบ้าง ช่วยลดไขมัน ช่วยลดน้ำหนัก (2567)

การวิ่งมาราธอนคืออะไร

การวิ่งมาราธอนเป็นการแข่งขันกีฬาวิ่งระยะไกลที่นักกีฬาจะต้องวิ่งเป็นระยะทาง 42.195 กิโลเมตร (26 ไมล์และ 385 หลา) มีการวิ่งมาราธอนหลายครั้งทั่วโลกในแต่ละปี เป็นงานที่ยากมากและนักวิ่งควรวิ่งเป็นระยะทางหลายไมล์ก่อนลงแข่งขัน เหตุการณ์นี้ตั้งชื่อตามการสู้รบในสงครามกรีก-เปอร์เซีย อ้างอิงจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Marathon

การแข่งขันวิ่งมาราธอนโอลิมปิกครั้งแรกในปี พ.ศ. 2439 และในปีนั้นเองมีการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ครั้งแรก มีการแข่งขันที่เรียกว่ามาราธอนที่นั่น ตอนนั้นอยู่ห่างออกไปเพียงประมาณ 25 ไมล์ (40 กม.)

การต่อสู้มาราธอนอันโด่งดังเกิดขึ้นในปี 490 ปีก่อนคริสตกาล กองทัพจากเปอร์เซียเข้ามาต่อสู้กับกองทัพแห่งเอเธนส์ ไม่คาดว่าจะมีกองทัพจากเอเธนส์ชนะ แต่พวกเขาก็ทำได้ หลังจากชัยชนะ พวกเขาได้ส่งนักวิ่งที่ดีที่สุดของพวกเขา ชายชื่อ Pheidippides กลับไปที่เอเธนส์เพื่อบอกข่าวดีกับทุกคน เขาวิ่งไปประมาณ 25 ไมล์และเสียชีวิตด้วยความเหนื่อยล้าเมื่อมาถึง

การวิ่งมาราธอน (จากภาษากรีก Μαραθώνιος) เป็นการวิ่งแข่งด้วยเท้าทางไกลที่มีระยะทาง 42.195 กม. (26 ไมล์ 385 หลา) โดยทั่วไปจะวิ่งเป็นการแข่งบนถนน แต่สามารถครอบคลุมระยะทางได้บนเส้นทางเทรล การวิ่งมาราธอนสามารถทำได้โดยการวิ่งหรือกลยุทธ์การวิ่ง/เดิน นอกจากนี้ยังมีแผนกรถเข็นด้วย ในแต่ละปีมีการจัดงานวิ่งมาราธอนมากกว่า 800 ครั้งทั่วโลก โดยผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาเพื่อสันทนาการ เนื่องจากการวิ่งมาราธอนขนาดใหญ่อาจมีผู้เข้าร่วมได้หลายหมื่นคน

การวิ่งมาราธอนเป็นหนึ่งในกิจกรรมโอลิมปิกสมัยใหม่ดั้งเดิมในปี พ.ศ. 2439 ระยะทางไม่เป็นมาตรฐานจนกระทั่งปี พ.ศ. 2464 ระยะทางยังรวมอยู่ในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกซึ่งเริ่มในปี พ.ศ. 2526 เป็นการแข่งขันวิ่งบนถนนเพียงรายการเดียวที่รวมอยู่ในการแข่งขันชิงแชมป์ทั้งสองรายการ (การแข่งขันเดินบนถนนก็มีการแข่งขันทั้งสองรายการเช่นกัน)

5-ประเภทการวิ่งมาราธอนที่นักวิ่ง-มือใหม่-ต้องรู้-2567-1

ประเภทของการวิ่งมาราธอนมีอะไรบ้าง

การวิ่งมาราธอนนั้นมีอยู่หลากหลายประเภทตั้งแต่การวิ่งสำหรับมือใหม่ไปจนการวิ่งที่เป็นระดับมืออาชีพ ระดับโลกเลยทีเดียว การวิ่งนั้นจะแบ่งออกเป็น 5 แบบด้วยกัน ไปเริ่มกันด้วยแบบแรก

Fun Run / Micro Marathon

การวิ่งอย่างแรกเลยเราเรียกว่า Fun Run หรือ Micro Marathon การวิ่งแบบแรกคือการวิ่งระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร เป็นระยะทางที่สั้นที่สุดในบรรดาประเภทการวิ่งมาราธอนทั้งหมด เป็นช่วงระยะที่เหมาะสำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่เริ่มลงงานวิ่งเป็นครั้งแรกๆในชีวิต

Mini Marathon

การวิ่งแบบที่สองเราเรียกว่า Mini Marathon การวิ่งแบบนี้คือ การวิ่งระยะทาง 10.5 กิโลเมตร แอดแนะนำว่าควรฝึกให้ร่างกายวิ่งระยะ 5-10 กิโลเมตร อยู่เป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายได้คุ้นชิน เมื่อลงสนามจริงจะได้วิ่งอย่างสบายๆเหมือนที่ซ้อมอยู่ประจำนะครับ

Half Marathon

การวิ่งแบบที่สามเราเรียกว่า Half Marathon การวิ่ง Half Marathon คือ การวิ่งระยะทาง 21 กิโลเมตร เหมาะสำหรับผู้ที่ฝึกฝนตัวเองมาเป็นอย่างดี แนะนำให้ฝึกซ้อมและเตรียมร่างกายของตัวเองให้ดีครับ เนื่องจากระยะทางค่อนข้างเยอะ หากไม่ผ่านการฝึกซ้อมมา ร่างกายที่ไม่พร้อมอาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้

Marathon / Full Marathon

การวิ่งแบบที่สี่ เราเรียกว่า Marathon / Full Marathon การวิ่งมาราธอน คือ การวิ่งระยะทาง 42.195 กิโลเมตร นี่คือระยะในฝันของนักวิ่งทุกคนก็ว่าได้ นักวิ่งที่เสพติดการวิ่งและจริงจังกับการวิ่ง เป้าหมายอย่างหนึ่งก็คือ การได้วิ่งมาราธอนสักครั้งในชีวิต หากจะลงวิ่งระยะนี้ต้องฝึกซ้อมร่างกายอย่างจริงจังครับ ต้องเตรียมตัวให้ดี ทั้งเรื่องอาหารการกิน การนอนหลับพักผ่อน

Ultra Marathon

การวิ่งแบบสุดท้ายเป็นการวิ่งที่ยากที่สุด นั้นคือ การวิ่งแบบ Ultra Marathon การวิ่งแบบ Ultra Marathon คือ การวิ่งระยะทางที่มากกว่า 42.195 กิโลเมตร มากกว่าในที่นี้คือระยะทาง 60, 70, 80 ,90 ไปจนถึงหลักร้อย หรือเกิน 100 กิโลเมตรเลยทีเดียว ผู้ที่จะลงวิ่งระยะนี้ต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งเป็นทุนเดิม ผ่านการฝึกซ้อมการวิ่งระยะไกลจนร่างกายปรับตัวได้ในขั้นที่ดี โดยต้องพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ

เครดิต : เพจวิ่งทั่วไทย