ในปัจจุบันมีอุปกรณ์ออกกำลังกายมากมายในตลาด บทความนี่เราจะมาดู 5 ประเภทของดัมเบล และข้อดี – ข้อเสียของดัมเบล ซึ่งเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายอันดับแรกๆ ที่คุณควรจะมีติดบ้านไว้สำหรับออกำลังกาย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณจึงพบเห็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านและยิมเชิงพาณิชย์ที่มีดัมเบล บาร์เบล และแผ่นน้ำหนัก มากมาย สำหรับดัมเบล คุณต้องพิจารณาประเภทที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป เรามาดูกันเลย
-
Product on sale
ชุดดัมเบลปรับน้ำหนัก ขนาด 32 Kg ปรับได้ถึง 30 กิโลกรัมOriginal price was: 5,900 ฿.5,490 ฿Current price is: 5,490 ฿. -
Product on saleชุดดัมเบลปรับน้ำหนัก ขนาด 20 Kg ปรับน้ำหนักได้ 20 กิโลกรัมOriginal price was: 3,990 ฿.3,490 ฿Current price is: 3,490 ฿.
-
Product on saleดัมเบลปรับน้ำหนัก ราคาถูก พร้อมกล่อง ปรับได้ 20 KG CCTFITNESSOriginal price was: 1,590 ฿.1,450 ฿Current price is: 1,450 ฿.
-
Product on saleดัมเบลปรับน้ำหนัก ราคาถูก ปรับน้ำหนักได้ 15 น้ำหนัก CCTFITNESSOriginal price was: 3,990 ฿.2,390 ฿Current price is: 2,390 ฿.
-
Product on saleดัมเบลน้ำหนักพร้อมชั้นวาง ขนาด 2.5-25KG รหัส E3077Original price was: 45,900 ฿.39,900 ฿Current price is: 39,900 ฿.
-
ชุดดัมเบลน้ำหนัก ขนาด 25 KG 1 คู่7,500 ฿
ดัมเบลคืออะไร?
ดัมเบลเป็นอุปกรณ์ยกน้ำหนักชนิดหนึ่งที่สามารถใช้ออกกำลังกายหรือฝึกยกน้ำหนักได้หลายแบบ โดยสามารถยกเดี่ยวๆ หรือยกคู่กัน โดยถือดัมเบลไว้ในมือแต่ละข้าง โดยสามารถรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 2.5 กก. ถึง 30 กก. ประโยชน์ของการใช้ดัมเบลมีดังนี้
- กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
- กระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ
- เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ
- ส่งเสริมเสถียรภาพของข้อต่อและกล้ามเนื้อ
- มีประสิทธิภาพสูงในการกำหนดเป้าหมายกล้ามเนื้อเฉพาะ
คุณจะใช้ดัมเบลล์ได้อย่างไร?
เหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้ดัมเบลล์เป็นที่นิยมก็คือ ดัมเบลล์มีประโยชน์ในการฝึกหลายด้าน ใช้งานง่ายและช่วยเน้นกลุ่มกล้ามเนื้อผ่านการออกกำลังกายเฉพาะ คุณสามารถใช้ดัมเบลล์ในการออกกำลังกายแขน หน้าอก ไหล่ และหลังได้ หลายๆ คนใช้ดัมเบลที่บ้านหรือที่ยิม เนื่องจากดัมเบลเป็นอุปกรณ์ยกน้ำหนักแบบอิสระที่มีขนาดเล็ก จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการฝึกดัมเบลที่บ้าน พื้นที่ไม่ใช่ปัญหา เพราะคุณสามารถเก็บดัมเบลได้อย่างง่ายดายเมื่อออกกำลังกายเสร็จ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ คุณสามารถรวมดัมเบลเข้ากับการออกกำลังกายของคุณได้ด้วยการออกกำลังกายแบบต่างๆ ต่อไปนี้คือไอเดียการออกกำลังกายด้วยดัมเบลบางส่วนที่จะนำไปใช้ในกิจวัตรการออกกำลังกายของคุณ:
- ลันจ์
- เหนือศีรษะ
- การดัดแขน
- การยกด้านข้าง
- ท่าสควอทถือแก้ว
- ก้มลงโค้งงอ
5 ประเภทของดัมเบล : ข้อดีและข้อเสีย
ดัมเบลมีสองประเภทหลัก คือ แบบตายตัวและแบบปรับได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีประเภทของดัมเบลอีกหลายประเภทที่คุณอาจพบซึ่งเหมาะกับการฝึกซ้อมเฉพาะเจาะจงมากกว่า เพื่อช่วยจำกัดตัวเลือกของคุณ ต่อไปนี้คือข้อดีและข้อเสียของดัมเบลทั้ง 5 ประเภทเพื่อให้คุณได้ทราบว่าควรคาดหวังอะไร
1. ดัมเบลหกเหลี่ยมแบบคงที่
ดัมเบลแบบตายตัวเป็นดัมเบลประเภทหนึ่งที่มักจะพบเห็นได้ทั่วไปในยิม ตามชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าดัมเบลประเภทนี้มีน้ำหนักตายตัว โดยปกติแล้วคุณจะซื้อเป็นคู่โดยมีน้ำหนักคงที่ สำหรับยิม ดัมเบลชุด 2.5-30 กก. ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ดัมเบลแบบหกเหลี่ยมจะมีรูปร่างเป็นหกเหลี่ยมเพื่อไม่ให้ขยับระหว่างออกกำลังกาย ดัมเบลแบบนี้เหมาะมากหากคุณต้องสลับน้ำหนักระหว่างออกกำลังกาย
2. ดัมเบลปรับระดับได้
ดัมเบลแบบปรับได้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นที่ หรืองบประมาณไม่เพียงพอสำหรับชุดดัมเบลแบบคงที่ คุณสามารถปรับน้ำหนักของดัมเบลได้ ดังนั้นคุณจึงมีน้ำหนักที่แตกต่างกันเพื่อใช้ในอุปกรณ์ชิ้นเดียว ข้อเสียของดัมเบลแบบปรับได้คืออาจมีขนาดค่อนข้างใหญ่ นอกจากนี้ยังอาจทำให้คุณเคลื่อนไหวได้ช้าลงหากคุณต้องเปลี่ยนน้ำหนักระหว่างการออกกำลังกาย
3. ดัมเบลยางแบบตายตัว
ดัมเบลยางแบบตายตัวมีน้ำหนักคงที่และมักจะเป็นทรงกลม ยางมีความทนทานและแข็งแรง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานหนัก นอกจากนี้คุณยังสามารถซื้อดัมเบลยางแบบหกเหลี่ยมได้เช่นกัน ข้อดีหลักประการหนึ่งของการใช้ยางแทนเหล็กหล่อก็คือ ยางจะสร้างชั้นเคลือบป้องกัน รอยขีดข่วนและรอยถลอกมักจะสังเกตเห็นได้ง่ายบนตุ้มเหล็กหล่อ แต่พบได้น้อยกว่ามากบนดัมเบลยาง
4. ดัมเบลสตูดิโอ
ดัมเบลสตูดิโอมักจะมีขนาดเล็กและเคลือบทั้งหมด ดังนั้นดัมเบลทั้งหมดจึงเคลือบด้วยยางหรือนีโอพรีนเพื่อปกป้องน้ำหนัก คุณมักจะเห็นดัมเบลสตูดิโอในชั้นเรียนสตูดิโอเพื่อเพิ่มแรงต้านเบาๆ ให้กับการออกกำลังกาย ดัมเบลเหล่านี้จับได้ง่ายระหว่างเซสชันการฝึกและไม่กลิ้งออกเมื่อคุณวางลง ดัมเบลสตูดิโอมักจะรับน้ำหนักได้ประมาณ 10 กิโลกรัม ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการออกกำลังกายแบบใช้แรงน้อยเท่านั้น
5. ดัมเบลสปินล็อค
ดัมเบลแบบหมุนล็อคเป็นดัมเบลแบบปรับได้ชนิดหนึ่ง แต่มีความแตกต่างกันเล็กน้อย คุณต้องซื้อดัมเบลที่มีน้ำหนักแยกกัน ซึ่งคล้ายกับที่คุณจะซื้อบาร์เบลและแผ่นน้ำหนักมาตรฐาน จากนั้นคุณจึงสามารถปรับน้ำหนักดัมเบลได้ด้วยตนเองตลอดการออกกำลังกาย ดัมเบลแบบหมุนล็อคเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ข้อเสียอย่างเดียว คือ คุณต้องไว้ใจกลไกการล็อคเมื่อทำการออกกำลังกายแบบยกน้ำหนักเหนือศีรษะ ในกรณีนี้ การใช้ดัมเบลที่มีน้ำหนักคงที่ เช่น ดัมเบลหกเหลี่ยม อาจเหมาะสมกว่า
ดัมเบลแต่ละประเภทมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แม้ว่าดัมเบลแบบสตูดิโออาจเหมาะสำหรับคนหนึ่ง แต่บางคนอาจพบว่าดัมเบลแบบยางช่วยให้บรรลุเป้าหมายการออกกำลังกายได้ เมื่อซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกาย ดัมเบลแบบยางจะช่วยให้คุณออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่และเห็นผลชัดเจน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับดัมเบล
ดัมเบลมีกี่ประเภท ?
ดัมเบลจะมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน คือ 1. ดัมเบลที่สามารถปรับน้ำหนักได้ (Adjustable Dumbbells)
2. ดัมเบลที่ไม่สามารถปรับน้ำหนักได้ (Fixed Dumbbells)
มือใหม่ควรเลือกซื้อดัมเบลกี่กิโลกรัม ?
1. 2-4 กิโลกรัม เหมาะสำหรับการฝึกกล้ามเนื้อแขนและฝ่ามือ
2. 6-8 กิโลกรัม เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการฝึกกล้ามเนื้อแขนและหน้าท้อง
3. 10-12 กิโลกรัม เหมาะสำหรับฝึกแบบฮิททราซ์เนอร์ หรือการฝึกหลายลักษณะของกล้ามเนื้อในช่วงเวลาเดียว
ยกดัมเบลได้ส่วนไหนบ้าง ?
เราสามารถยกดัมเบลเพื่อสร้างกล้ามเนื้อได้เกือบทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อส่วนบน เช่น ไบเซป ไตรเซป อก ไหล่ หลัง ปีก
- อุปกรณ์นำเข้า หลายเกรดคุณภาพฟิตเนส ให้คุณเลือก
- สินค้ารับประกันทุกชิ้นส่วน
- ผ่อนจ่ายได้ตามความสะดวกของลูกค้า
- บริการออกแบบด้วย ระบบ 3D สมจริง
- บริการซ่อมบำรุงหลังการขาย ระดับมืออาชีพ
- บริการจัดส่งทั่วไทย ส่งฟรี กทม ปริมณฑล
- ให้คำปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
สนใจสอบถามข้อมูล ทางนี้เลย
Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8
เรียบเรียงบทความโดย https://cctfitness.com/
